สินค้าอื่นๆ

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องการตกแต่งบ้านด้วยเยื่อไม้ธรรมชาติ เรามีให้ท่านเลือกมากมายหลายหลากสี ซึ่งเราขอแนะนำม่านเยื่อไม้ธรรมชาติ 2 แบบคือ

ม่านพับเยื่อไม้ธรรมชาติ (Roman Shade) เป็นรูปแบบการตกแต่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ผืนเยื่อไม้ไผ่ธรรมชาติที่มีลักษณะของการพับเรียงกันเป็นชั้นๆเมื่อเปิดรับแสง อุปกรณ์รางม่านพับผลิตจากอะลูมิเนียมเคลือบสีขาว จึงให้ความรู้สึกเรียบร้อย สวยงาม สามารถช่วยเพิ่มรายละเอียดของห้องให้ดูมีมิติ  เหมาะกับห้องที่มีเฟอร์นิเจอร์หรืออุปกรณ์ตกแต่งไม่มากจนเกินไปและมีความสะดวกในการใช้งานเพราะควบคุมด้วยโซ่วนเพียงเส้นเดียว ม่านพับเยื่อไม้ธรรมชาติยังสามารถเพิ่มกุ๊นขอบให้เรียบร้อย ซับหลังด้วยผ้าม่านเพื่อกันแสงได้มากกว่าเดิม หรือเลือกแบบหน้าม้าบังรางได้เพื่อเพิ่มความเรียบร้อย สวยงาม

ม่านม้วนเยื่อไม้ธรรมชาติ (Roller Style) เป็นการนำม่านม้วนและเยื่อไม้ธรรมชาติมาผสมกัน บ่งบอกถึงรสนิยมของความโมเดิร์นและความเป็นธรรมชาติที่อยู่รวมกัน เมื่อม้วนเก็บม่านม้วนขึ้นจะทำให้ห้องดูกว้าง ปราศจากวัตถุใดๆมากั้นขวางบริเวณหน้าต่าง สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้อย่างชัดเจนสวยงาม สีของอุปกรณ์จะมีความกลมกลืนกับสีม่านม้วนเยื่อไม้ธรรมชาติ เพื่อให้เกิดความกลมกลืนเพราะม่านม้วนเน้นการตกแต่งสไตล์โมเดิร์น จึงไม่สามารถเย็บกุ๊นขอบ เย็บซับหลัง หรือมีรางบังหน้าม้าได้ แต่ม่านม้วนนับว่าเป็นม่านที่สามารถบังแสงได้ระดับหนึ่ง

พรม เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการตกแต่งห้อง และเป็นส่วนประกอบสำคัญนอกจากจะช่วยเพิ่มความสวยงามของห้องคุณแล้ว ยังสามารถเพิ่มเอกลักษณ์ด้วยรูปแบบต่างๆ และสามารถแบ่งพื้นที่การใช้งานได้เป็นสัดส่วนโดยไม่ต้องกั้นบริเวณ  ซึ่งสามารถใช้ได้กับทั้งในบ้านหรือสำนักงาน ทำให้ห้องของคุณดูอบอุ่น น่าสัมผัส ให้สัมผัสที่นุ่มต่างจากการปูด้วยกระเบื้อง

ในการเลือกพรม ควรคำนึงถึงสี และรูปแบบรวมของการตกแต่งฝาผนังและหน้าต่าง หากผนังมีสีสดใส คุณอาจต้องการพรมที่มีสีเดียวกัน แต่ในทางกลับกันถ้าผนังและการตกแต่งในห้องมีสีอ่อนๆคุณสามารถเลือกพรมที่โดดเด่น เพื่อเป็นจุดสนใจให้กับห้อง

ฉากกั้นห้องจะช่วยจัดแบ่งห้องให้เป็นสัดส่วนหรือปรับเปลี่ยนพื้นที่ภายในบ้านในแบบที่ต้องการนั้นเป็นเรื่องที่ง่าย และยังสามารถติดตั้งได้ทันทีโดยไม่ต้องทุบ รื้อใดๆทั้งสิ้น โดยการติดตั้งสามารถทำได้ง่ายไม่เปลืองพื้นที่ ทำให้ห้องดูไม่ทึบเหมือนกับการกั้นด้วยผนังปูน จากหนึ่งห้องใหญ่ก็กลายเป็นสองห้องได้อย่างง่ายดาย แต่เมื่อไหร่ที่คุณพับเก็บฉากกั้นห้อง คุณก็จะได้ห้องขนาดกว้างขวางที่พร้อมใช้งานได้ทันที

ฉากกั้นห้องมีให้เลือกถึง 2 แบบ 2 สไตล์ที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นฉากกั้นห้องพีวีซี(PVC) รุ่นนี้ได้รับผลได้รับดีที่สุด เพราะด้วยดีไซน์ที่เรียบหรูมีระดับ ติดตั้งง่าย ไม่เปลืองพื้นที่ พับเก็บเป็นระเบียบ เหมาะกับการใช้งานจริงและมีราคาที่ไม่แพง จึงส่งผลให้ฉากกั้นห้องรุ่นนี้เป็นที่นิยมตลอดกาล แต่ถ้าหากพูดถึงฉากกั้นห้องที่เปรียบเสมือนเฟอร์นิเจอร์อีกชิ้นหนึ่งที่เพิ่มความภูมิฐานให้กับบ้านของคุณ ด้วยรูปลักษณ์ที่ทันสมัยและสวยงาม คงหนีไม่พ้นฉากกั้นห้องญี่ปุ่น จุดเด่นของฉากกั้นห้องญี่ปุ่นคือสามารถให้แสงลอดผ่านจากช่องกระจกอะคริลิคที่คุณสามารถเลือกลวดลายให้เข้ากับสไตล์ของคุณได้

ม่านพาแนลแทรค ม่านดีไซน์เรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยความเรียบหรูด้วยลักษณะของใบที่สามารถปรับขนาดความกว้างและจำนวนบานสไลด์ได้ตามใจชอบ ทำให้ท่านลูกค้าสามารถปรับแต่งรูปแบบได้ตามต้องการ ด้วยดีไซน์ที่เรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยความเรียบหรู จะช่วยทำให้บ้านของคุณดูดีมีระดับ ตัวรางจะมีลักษณะเด่นที่สามารถเลื่อนซ้อนกันที่มีให้เลือกทั้งแบบ 3 บาน 4 บาน และ 5 บาน ตามการใช้งาน

ม่านพาแนลแทรค เหมาะสำหรับการใช้งานทั้งในห้องรับแขก หรือห้องโถงรับรองที่มีลักษณะพื้นที่กว้าง การใช้งานก็แสนง่ายด้วยระบบเชือกดึง นอกจากนี้ยังสามารถเลือกใช้ผ้าที่จะมาใช้กับรางพาแนลแทรค ไม่ว่าจะเป็นแบบผ้าม่าน ผ้าม่านม้วน หรือเยื่อไม้ธรรมชาติ ให้มาเติมเต็มความสมบูรณ์แบบให้กับบ้านของคุณและทำให้บ้านของคุณดูดีทันสมัย

สำหรับท่านที่ชื่นชอบการตกแต่งบ้านสไตล์ Tropical หรือการตกแต่งบ้านสไตล์เขตร้อนและเลือกใช้วัสดุธรรมชาติในการตกแต่งบ้าน ขอเสนอให้เลือกใช้ม่านไม้ไผ่ ที่มีลวดลายสวยงาม เหมาะกับการตกแต่งบ้านแนวธรรมชาติ ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ร่มรื่น สามารถช่วยกรองแสงแดดที่ส่องเข้ามาในบ้านให้ลดน้อยลง ช่วนระบายอากาศและความร้อนได้ดี เหมาะกับห้องนั่งเล่นในสวนหรือรีสอร์ท ท่ามกลางธรรมชาติที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก ตัวม่านไม้ไผ่ทอด้วยเชือกและเส้นได้คุณภาพดี มีความเหนียวทนทาน ลวยลายและสีต่างๆมีให้เลือกมากมาย ตั้งแต่โทนสีไม้อ่อนจนถึงโทนสีไม้ไผ่เข้ม เพื่อให้กลมกลืนกับความเป็นธรรมชาติ ม่านไม้ไผ่ที่เป็นที่นิยม มี 3 แบบ

ม่านม้วนไม้ไผ่ (Roller Style) เป็นรูปแบบการตกแต่งบ้านสไตล์ญี่ปุ่น ด้วยการนำไม้ไผ่มาผลิตเพื่อใช้งาน โดยใช้เชือกดึงสีน้ำตาลในการควบคุมการขึ้น-ลงของม่านม้วน

ม่านพับไม้ไผ่ (Roman Shade) มีลักษณะการใช้งานคล้ายม่านพับทั่วไป โดยใช้อุปกรณ์ติดตั้งที่แข็งแรง ทนทาน และเชือกดึงสีน้ำตาลกลมกลืนกับสีม่านไม้ไผ่ ซึ่งม่านพับไม้ไผ่สามารถเพิ่มเทปกุ๊น ซับหลัง และหน้าม้า ได้เหมือนม่านม้วนเพื่อให้ได้ม่านพับที่สวยงามและตรงใจคุณ

ฉากบานพับไม้ไผ่ (Bamboo Partition) เหมาะกับการแต่งบ้านด้วยกรอมไม้แท้คุณภาพดี เรียงต่อกันชุดละ 4 บาน สามารถเคลื่อนย้ายตำแหน่งหรือพับเก็บได้อย่างสะดวก มีประโยชน์ด้านการเลือกแบ่งพื้นที่ใช้สอยในบ้านให้เป็นสัดส่วน หรือช่วยในการแก้ไขเรื่องฮวงจุ้ยได้เป็นอย่างดี กรอบไม้มีให้เลือก 2 สี คือ สีไม้ธรรมชาติ(สีไม้อ่อน) และสีทีค(สีโอ๊คดำ)

สำหรับท่านที่ต้องการตกแต่งบ้านให้มีความทันสมัย ม่านม้วนถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยตกแต่งให้ห้องของท่านมีความเหมาะสม สวยงาม และน่าอยู่

ม่านม้วน คือการนำผ้าที่เนื้อละเอียด มีความแข็งพอประมาณในการคงรูปให้ตรง ไม่บิดเบี้ยว และสามารถม้วนได้ มาใช้กับชุดรางม่านม้วนที่สามารถควบคุมให้ม้วนขึ้นและลงได้ หากต้องการบังแสงแดดให้ดึงผ้าม่านลงมา โดยสามารถเลือกได้ว่าต้องการให้บังแสงในระดับไหน อาจจะบังเพียงครึ่งบนของขอบหน้าต่างและให้แสงผ่านเข้ามาได้ในครึ่งล่างเพื่อให้อากาศถ่ายเทสะดวก หรืออาจให้ม่านม้วนปิดบังทั้งหมดเพื่อกันแสงแดดและความร้อนไม่ให้ผ่านเข้ามาหากไม่ได้ใช้งานสามารถเก็บขึ้นได้ทั้งหมด

ม่านม้วนเหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีจำกัด เพราะนอกจากม่านม่วนจะช่วยบดบังแสงแล้ว ยังใช้พื้นที่น้อยในการติดตั้ง ไม่เปลืองพื้นที่ใช้สอย เช่น ออฟฟิศ เป็นต้น ซึ่งในปัจจุบันม่านม้วนได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นห้องโถงใหญ่ๆตามโชว์รูม ร้านค้า ร้านอาหาร หรือแม้กระทั่งใช้ตกแต่งภายในบ้านเช่นกัน

มู่ลี่เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่เหมาะสำหรับการตกแต่งบ้าน การติดมู่ลี่จะช่วยในการบังแสงที่ส่องเข้ามาภายในห้องและยังช่วยสะท้อนความร้อนที่เข้าสู่ตัวบ้าน/อาคารอีกด้วย ซึ่งนับว่าเป็นของตกแต่งบ้านที่เน้นความเรียบง่าย ลักษณะตัวใบของมู่ลี่จะวางตัวในแนวนอน ซึ่งการใช้งานก็ใช้ได้ง่าย คล้ายกับม่านปรับแสง โดยมู่ลี่มี 2 แบบดังนี้ มู่ลี่ไม้  แยกย่อยไปอีก 4 ประเภท

1. มู่ลี่ไม้รามิน (Ramin Wooden Blinds) เอกลักษณ์ของไม้ชนิดนี้คือ เป็นไม้เนื้อแข็ง ที่มีความแข็งแรงกว่าไม้สนทั่วไป โดยตัวมู่ลี่ไม้รามินจะเคลือบด้วยสาร UV 4 รอบด้าน ผ่านขั้นตอนการอบไม้ด้วยอุณหภูมิสูง เคลือบสีด้วยเทคนิคพิเศษ ที่ทำให้สีไม่ซีดจางเมื่อใช้งาน
2. มู่ลี่ไม้บาสวูด (Basswood Wooden Blinds) ลักษณะเด่น คือ เป็นไม้เกรดคุณภาพ ที่มีน้ำหนักเบา ผิวเรียบเนียน ตัวไม้ผ่านขั้นตอนการอบ และทำสีด้วยเทคโนโลยีระดับมาตรฐานสากล อีกทั้งยังผ่านการเคลือบสาร UV และเคลือบสารป้องกันเชื้อรา เพื่อเพิ่มความคงทนของไม้
3. มู่ลี่ไม้รุ่นสแปนิช (Spanish Wooden Blinds) คือการนำไม้บาสวูดเกรดคุณภาพ มาผ่านขั้นตอนการอบแห้งเพื่อป้องกันการขยายของเนื้อไม้ และนำมาเข้าระบบพิมพ์ลาย 3D มาตรฐานของประเทศสเปน ทำให้มีลายไม้ที่เหมือนจริง เด่นชัด และสวยงาม อีกทั้งมีการเคลือบ UV ทำให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน มู่ลี่ไม้ชนิดนี้เหมาะสำหรับบ้านที่ต้องการความโดดเด่นและมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร
4. มู่ลี่โฟมวูด (Foam Wood Blinds) ผลิตจาก Polystyrene เป็นมู่ลี่ไม้สังเคราะห์ หรือนิยมเรียกกันว่าโฟมวูด สีและลวดลายถูกทำให้คล้ายกับไม้จริง โดยใช้เทคโนโลยีภายใต้ลิขสิทธิ์จากประเทศอเมริกาที่สำคัญคือโฟมวูด เป็นวัสดุที่ไม่ลามไฟ นอกจากนั้นยังมีความทนทานต่อสภาพอากาศแสงแดดจัด สีไม่ซีด ไม่ลอก และโดนน้ำได้โดยที่ใบมู่ลี่ไม่บวมน้ำหรือบิดงอ สามารถติดตั้งได้ทุกที่อย่างไม่มีข้อจำกัด

มู่ลี่อะลูมิเนียม สามารถใช้แทนในส่วนที่ไม่เหมาะแก่การใช้ผ้าม่านเช่น ห้องครัว และห้องน้ำ เนื่องจากมู่ลี่อะลูมิเนียมมีความแข็งแรง ปรับทิศทางแสงไปตามทิศทางที่ต้องการได้ โดยมู่ลี่อะลูมิเนียมนั้น แบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ

• รุ่นลายไม้ ใบของมู่ลี่จะมีลวดลายเหมือนลายเนื้อไม้จริง ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ เพราะใบมู่ลี่จะพิมพ์ลายไม้ไว้ในเนื้อใบมู่ลี่ทั้ง 2 ด้าน
• รุ่นอะลูมิเนียม เป็นรุ่นมาตรฐานที่นิยมใช้กันทั่วไป ตัวใบจะทำจากอะลูมิเนียม แต่เน้นไปที่มีสีให้เลือกหลากหลายแบบตามความชอบ

โดยการติดตั้งมีให้เลือกถึง 4 รุ่นตามความเหมาะสม

1. รุ่นแกนปรับ – เป็นรุ่นมาตรฐานที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ตัวแกนปรับทำจากอะคริลิกใส ซึ่งสามารถปรับองศาของใบมู่ลี่โดยใช้มือปรับหมุนแกนไปมา
2. รุ่นเชือกปรับ – ในการใช้งาน จะใช้เชือกในการปรับองศาของใบ โดยจะมีเชือก 2 เส้น ใช้สำหรับดึงขึ้นลงเพื่อปรับองศาของใบ
3. รุ่นโซ่ดึง – สามารถใช้โซ่ในการควบคุม ทั้งการปรับองศาของใบมู่ลี่ และเก็บหรือปล่อยมู่ลี่ได้ในโซ่วนเพียงเส้นเดียว
4. รุ่นมอเตอร์ – เป็นรุ่นที่มีตัวมอเตอร์ควบคุมติดอยู่บนกล่องราง เพื่อใช้เป็นตัวควบคุมสัญญาณ พร้อมทั้งมีระบบรักษาความ ปลอดภัย ด้วยระบบตัดไฟอัตโนมัติเมื่อมีเหตุการณ์ไฟฟ้าตกหรือดับ

ในปัจจุบันม่านปรับแสงถือว่าได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของงานดีไซน์ ที่จะทำให้ห้องของคุณดูเรียบหรู มีสไตล์มากยิ่งขึ้น ลักษณะโดยทั่วไปคือตัวใบม่านวางตัวในแนวตั้งมีขนาดมาตรฐาน 89 มม. ชนิดของใบม่านมีหลากหลายชนิดสามารถเลือกนำมาทำเป็นตัวใบได้ทั้ง ใบใยสังเคราะห์ ใบทึบแสง ใบไฟเบอร์แบบซันสกรีน ใบอลูมิเนียม ใบพีวีซี แต่ที่นิยมนำมาใช้กว่า90%จะเป็นชนิดใยสังเคราะห์ที่ให้ความเป็นธรรมชาติมากกว่าเนื่องจากผลิตจากใยสังเคราะห์ ไม่ส่งเสียงรบกวนในขณะเปิดปิดม่าน

ม่านปรับแสงมีทั้งหมด 3 แบบ

• ม่านปรับแสงแบบโปร่งแสง (Dimout) ตัวใบทำมาจากเส้นใย Polyester และ Cotton ชนิดพิเศษ     ม่านปรับแสงชนิดนี้จะทำให้ห้องดูสว่าง เพราะแสงสามารถทะลุผ่านเข้ามาภายในห้องได้ ความสามารถในการป้องกันแสง 50-70% เมื่อมองจากภายนอกไม่สามารถมองเข้ามาได้ ซึ่งเหมาะสำหรับติดตั้งในห้องนั่งเล่น ห้องนอนหรือสำนักงานได้
• ม่านปรับแสงแบบกรองแสง (Sunscreen) ตัวใบทำมาจากด้าย Polyester หรือ Fiberglass เคลือบด้วย PVC ชนิดพิเศษ โดยคุณสมบัติเด่น คือ น้ำหนักเบา สามารถมองทะลุได้ ใช้กันสายตาในเวลากลางวัน เหมาะสำหรับการติดตั้งในสถานที่ต่างๆ เช่น บ้าน โรงเรียน ออฟฟิศ ฯลฯ
• ม่านปรับแสงแบบทึบแสง (Blackout) ตัวใบทำมาจากเส้นด้าย Polyester หรือ Fiberglass แต่เคลือบด้วย PVC ที่มีส่วนผสมของคาร์บอน จุดเด่นของม่านชนิดนี้คือสามารถกันแสงได้ 90-100% เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับห้องนอน หรือจุดที่ต้องการพักผ่อน

ผนังห้องสีขาวแบบเดิมๆ อาจสร้างความเบื่อหน่ายให้กับคุณ ลองมาดูวอลเปเปอร์ติดผนัง ที่จะช่วยเปลี่ยนรูปแบบห้องเก่าๆให้มีความเป็นเอกลักษณ์ โดดเด่น ทำให้บ้านหรือห้องของคุณมีความพิเศษมากยิ่งขึ้น

วอลเปเปอร์จะช่วยสร้างสีสันและสไตล์ที่บ่งบอกถึงความเป็นคุณมากยิ่งขึ้น อีกทั้งการติดตั้งที่ง่าย สะดวกและรวดเร็ว สามารถทำความสะอาดได้ง่าย โดยท่านสามารถเลือกลวดลายเองได้ ไม่ว่าจะเป็นลายเรียบสีธรรมดาจนถึงลายกราฟฟิคเก๋ๆ

รู้หรือไม่!! วอลเปเปอร์มีอายุการใช้งานที่นานกว่าสีทาบ้านทั่วไปโดยเฉลี่ยแล้วถึง 5 เท่า เมื่อคำนวณถึงความคุ้มค่าแล้ว เปรียบเทียบกับระยะเวลาระหว่างสีทาบ้านธรรมดากับวอลเปเปอร์ วอลเปเปอร์จะสามารถทำให้คุณประหยัดได้มากกว่า และยังได้สีและลวดลายสวยๆอีกด้วย